นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ สภาเห็นชอบแก้กฎหมาย กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ไม่เก็บดอกเบี้ย และไม่คิดเบี้ยปรับว่า ว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … หรือ ร่าง พ.ร.บ.กยศ. ได้ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แล้ว ดังนั้นจึงไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังต้องรอกฎหมายออกมาก่อน หลังจากนั้น กยศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. จะต้องวางแผนบริหารจัดการ จากเดิมที่จะมีรายได้เสริมสภาพคล่องจากดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ แต่เมื่อไม่มีเงินจากส่วนนี้เข้ามา ก็จะต้องวางแผนบริหารในอีกรูปแบบหนึ่ง
แม้ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. จะผ่านสภาแล้ว แต่ในขั้นตอนวุฒิสภา เรายังสามารถไปชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ ซึ่ง กยศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. จะต้องไปรายงานทั้งสภาพคล่อง รวมทั้งประเมินความต้องการกู้ยืมในอนาคต
“เงินกู้ยืมจาก กยศ. ยังถือเป็นเงินกู้ ที่ผู้กู้ยังคงต้องมีวินัยในการชำระคืน ดังนั้นต่อให้มีหรือไม่มีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ ก็ยังต้องชำระคืน”
ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับว่าขณะนี้มีความคิดเห็น 2 ประเด็น คือ ความกังวลเกี่ยวกับวินัยในการชำระหนี้คืน และอีกส่วนมองว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องเข้ามาบริหารจัดการ ซึ่งไม่ถือเป็นข้อขัดแย้งใด อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยและเบี้ยปรับของ กยศ. ที่ผ่านมาไม่ได้ถือเป็นกำไรของกองทุน แต่เป็นเงินที่นำมาเป็นเสริมสภาพคล่องเพื่อปล่อยกู้ให้รุ่นน้อง พร้อมห่วงเรื่องวินัยในการชำระหนี้
“กรณีคืนเบี้ยปรับย้อนหลังหรือไม่ ยังต้องรอกฎหมายออกมาก่อน ซึ่งยังต้องรอการพิจารณาของวุฒิสภาฯ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ เพราะคลังก็มีคนในกรรมาธิการที่ยังสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้”
ด้านนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ยอมรับว่า หากไม่มีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ ก็อาจกระทบต่อสภาพคล่องของกองทุนฯ ให้ลดลง ซึ่งแต่ละปีกองทุนฯ จะมีเงินจากเบี้ยปรับและดอกเบี้ยประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเงินส่วนนี้ จะถูกนำมาใช้หมุนเวียนในการปล่อยกู้ให้กับรุ่นน้อง โดยที่กองทุนไม่ได้พึ่งพาเงินจากงบประมาณของรัฐบาล มาตั้งปี 2561